Hong Kong : พาคุณแม่วัยห้าสิบใจวัยรุ่น ย้อนวัยเข้าสวนสนุก ชิมของอร่อย ถ่ายรูปชิคที่ฮ่องกง 3 วัน 2 คืน คนละ 3K

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราจะเล่าแนวทางพาคุณพ่อคุณแม่ปู่ย่าตายายวัยใสท่องไปในเกาะฮ่องกงในระยะเวลา3 วัน 2 คืนที่เต็มไปด้วยความสนุกและบริหารอวัยวะส่วนบนเยอะหน่อยเนื่องจากกินและยิ้มไม่หยุดฮ่าฮ่าขอตั้งชื่อทริปนี้ว่า“ทริปร่างไม่ไหวแต่ใจเกินร้อย” ใจสู้ ตื่นมาทุกเช้า..ใจอยากอายุสิบห้าแต่ร่างห้าสิบ

ก่อนออกเดินทางต้องจองทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนเริ่มจาก...  
1. จองตั๋วเครื่องบิน จองก่อนเดินทาง1 อาทิตย์  เป็นช่วงวันหยุดยาวสามวันจองใกล้ๆก็ไม่เป็นไรเพราะว่าตอนนี้ของทุกปีเป็นlow season ฝนตกได้ทุกวี่วันแถมบางทีโชคร้ายขนาดพายุเข้าทำให้ทุกสายการบินขยันออกโปรจนนาทีสุดท้าย555+ สำหรับราคาตั๋วของเราไม่เสียเงินใช้แต้มบัตรเครดิตแลกของKTC World ถ้าเสียราคาประมาณ6,200 บาทต่อคน 
2. จองโรงแรมที่พัก คืนแรกถึงเย็นแล้วเลยตัดสินใจนอนไม่ไกลจากสนามบินจองRambler Garden Hotel คืนละ1,159 บาทยิงตรงจากสนามบินเพียง20 นาทีและเดินเข้าที่พักได้เลยส่วนคืนที่สองย้ายมานอนในเมือง จองที่Evergreen Hotel รวมอาหารเช้า1,135 บาทที่ถนนนาธานห่างจากJordan station 3 นาที(ชอบทั้งสองโรงแรมที่จองเลย) ตอนแรกแพลนจะนอนmansion แถวTsim Sha Tsuiแต่เห็นรีวิวแล้วคุณแม่ไม่น่าจะไหวพาผู้ใหญ่ไปด้วยที่พักควรดีนิดนึง 
3. ทำประกันเดินทาง ได้ฟรีจากCigna จากบัตรเครดิตVISA ทางไปทำฟรีhttps://www.cigna.co.th/visa
4. จองที่จอดรถแถวสนามบินสุวรรณภูมิวันละ80 บาทพร้อมบริการLimousine Bus รับส่งฟรีไปกลับสนามบินประหยัดไปได้เยอะ 
5. จองร้านอาหารเจ้าดังซิมส์การ์ดบัตรOctopus และบัตรสวนสนุกOcean Park ทั้งหมดจากKLOOK


ข้อดีที่ซื้อทั้งหมดล่วงหน้าจากKLOOK
1. บัตรสวนสนุกซื้อ1 แถม1 คุ้มมมมมากกกกได้มา1647 บาทต่อราคา2 ใบ(หน้างาน498 dollar หรือ2026 บาทต่อใบ)
2. ซิมส์การ์ดสัญญาณแรงมากได้5 GB เพียง200 บาท 
3. บัตรOctopus ไม่มีค่าธรรมเนียมบัตร50 dollar มีpreload 50 dollar ด้วยพอใช้เสร็จเก็บกลับบ้านได้เลยเอามาใช้ต่อรอบหน้าบัตรอายุ3 ปี 
4. ร้านอาหารในฮ่องกงส่วนน้อยมากจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้พอจองและจ่ายเงินไปก่อนแค่ยื่นมือถือกดredeem หรือscan barcode เอาไม่ต้องคุยกันให้เหนื่อยและมั่นใจได้เลยว่าอาหารอร่อยแน่นอนเพราะส่วนมากเป็นร้านดังและมาจากMichelin guide 
5. ลดเพิ่ม: ใส่คูปองส่วนลดเพิ่มสูงสุด500 บาท(ดูคูปองในเพจ) และใครมีแต้มลดได้อีก2 on top โอ๊ยฟินนนนน 

จองครบเรียบร้อยเริ่มวางแพลนการเดินทางเอาหนังสือฮ่องกงให้แม่เลือกเลยอยากไปไหนบ้างสรุปแพลนออกมาเป็นแบบนี้ 

1 มิถุนายน 2562
- เดินทางไปฮ่องกงflight EK384 
- เช็คอินโรงแรมRambler Garden Hotel
- เดินเล่นในห้างใต้โรงแรม

2 มิถุนายน 2562
- อาหารเช้าติมซำร้านLin Heung Kui
- อ่าวRepulse Bay 
- ขอพรเจ้าแม่กวนอิม(แม่เลือก)
- สวนสนุกOcean Park
- อาหารกลางวันเกี๊ยวกุ้งKeun Kee WOnton Noodle
- เช็คอินโรงแรมEvergreen Hotel
- Hong Kong culture center 
- ซื้อของฝากShopping street 
- ถนนคนเดินTemple Street Night Market

3 มิถุนายน 2562
- อาหารเช้าที่โรงแรม 
- วัดChe kung temple (แม่เลือก)
- ห้างPlaza Hollywood 
- สวนNan Lian Garden (แม่เลือก)
- ตลาดLady Market และMonglong (แม่เลือก)
- ห้างSOGO 
- อาหารกลางวันห่านKi Restaurant 
- เดินเล่นCentral Hollywood Road และSoho
- อาหารเย็นPremium Plaza Lounge 
- Disney store Hong Kong airport Terminal 1 
- เดินทางกลับกรุงเทพflight EK385

ฮ่องกงสามารถใช้บัตรOctopus แตะได้หมดเวลาเงินหมดสามารถเติมต่ำสุด50 dollar เติมจากStation หรือ7-eleven  

ส่วนการเดินทางเลือกเดินทางด้วย  Bus -> Tram -> MTR ชอบรถบัสที่สุด เพราะว่าใช้เดินใกล้กว่ารถไฟเวลาเราอยากหาข้อมูลรถบัสให้ใช้แอพCitybusNWFB ก็สามารถดูสายรถบัสและราคาต่อเที่ยวทั้งหมดในฮ่องกงหรือจะใช้google map ก็ได้แต่ไม่มีราคาถ้าไม่มีบัตรoctopus ต้องเตรียมเงินให้พอดีหรือเกินได้เพราะรถบัสของฮ่องกงไม่มีเงินทอนต่อมารถTram ราคาจะอยู่ที่2.6 dollar ประมาณ10 บาทถูกมากๆราคาเดียวตลอดสายไม่มีแอร์ชิวดีค่อยๆไปนั่งชมเมืองดูclassic สุดท้าย“รถไฟใต้ดิน” ใช้บริการน้อยที่สุดเนื่องจากต้องเดินใต้ดินหาทางออกบางexit ไกลมากกบางอันเชื่อมสถานีถึง500 เมตรคุณแม่เดินไม่ไหวดูราคาได้จากhttp://www.mtr.com.hk/en/customer/tickets/index.php

ทุกอย่างดูจะพร้อมแล้วเวลาแพลนและเตรียมตัวอาจจะน้อยเงินค่อยไปแลกที่สนามบินยัดของใส่กระเป๋าพร้อมออกเดินทาง
วันที่1 มิถุนายน 2562 

ขับรถออกจากบ้านเอามาจอดที่ลานจอดรถใกล้สนามบินสุวรรณภูมิที่จอดรถมีหลังคาและกล้องวงจรปิดสามารถตรวจสอบได้ผ่านapplication สบายใจได้ว่าเราจะไม่หายเจ้าหน้าที่มาส่งที่สนามบินแค่5 นาทีจากที่จอดรถ



เคาน์เตอร์อิมิเรทจะตรงกับตัวT ประตูที่9 เจ้าหน้าที่มาส่งเราถึงหน้าประตูเลยลากกระเป๋ามาตรงCounter check in online ไม่มีคิวได้boarding pass เรียบร้อยเข้าไปผ่านตม. เผื่อเวลาไว้เยอะเกินแถมตอนcheck in กราวน์บอกว่าdelay 30 นาทีเปลี่ยนเวลาboarding จาก14.05 เป็น14.35 รอวนไปค่ะ



หาอะไรทำดีกว่าเดินสำรวจของในKing Power ขากลับจะซื้ออะไรดี555+ เช็คไปก่อนเผื่อฮ่องกงถูกกว่าเดินจนครบสองฝั่งมานั่งรอในKing Power Lounge รับประทานอาหารกลางวันเบาเบารองท้องรอไปรับประทานบนเครื่องอีกที




เมื่อถึงเวลาboarding time มารอตรงGate เจ้าหน้าที่ประกาศเลื่อนเวลาboarding ถึงสามครั้ง13.35 -> 14.00 -> 14.15 น. รอต่อไปค่ะ5555+ ยืนรอนะที่นั่งไม่มีถึงเวลาสักทีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่องตามZone ที่นั่ง





เดินขึ้นบันไดสู่ชั้นสองบนเครื่องAirbus A380 ด้านบนจัดที่นั่ง2-4-2 เราเลือกที่นั่งแบบ2 คนไม่ได้เต็มทุกที่นั่งtake off มาได้สักพัก






แอร์แจกใบตรวจคนเข้าเมืองและเมนูอาหารมีเมนูไก่และแกะเลือกมาอย่างละอันอร่อยทั้งคู่เครื่องเคียงเป็นข้าวไรซ์เบอรีอกไก่และชอคโกแลตKITKAT





ไฟท์บินEK384 ใช้เวลาบิน2 ชั่วโมง10 นาทีเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกงตอน18.40 น. ผ่านตมใช้เวลาไม่นานดันมานานตรงรอรับกระเป๋าเดินทางใช้เวลาเกือบสี่สิบนาทีนานมากกกกตั้งแต่บินมาไม่เคยเจอการรอกระเป๋าที่นานขนาดนี้มาก่อนเลย-...- เฮ้ออออ



ได้กระเป๋าเรียบร้อยออกมาตรงArrival Hall Terminal 1 มองหา  Counter A13 ต้องเอาคูปองKLOOK ที่ซื้อมาไปแลกตรงนี้ทั้งซิมส์การ์ดและบัตรOctopus ใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีได้ทั้งสองอย่างมาครอบครองเอาซิมส์ใส่มือถือละใช้ได้เลยส่วนบัตรoctopus ในบัตรมีเงินให้แล้ว50 dollar ตรงนี้จะเติมเงินเพิ่มไม่ได้ต้องเอาไปเติมเพิ่มเองเรียบร้อย




เดินตามป้ายTo City ... หาตัวอักษรBus A32 ค่าโดยสาร18.9 dollar ใช้เวลาเดินทาง20 นาทีลงสถานีChing Tao House Cheung Ching Estate แล้วเดินตามป้ายเข้าโรงแรมได้เลยสะดวกมากๆ



 Check in เรียบร้อยได้การ์ด2 ใบและไม่มีค่าdeposit fee ใดใด





ได้ห้องชั้น28 วิวสวยมากกกกก่อนเข้าประตูเป็นวิวเมืองเปิดประตูเข้ามาในห้องมีการ์ดเสียบอยู่และแอร์เปิดให้เรียบร้อยห้องtwin bed ของใช้ในห้องน้ำครบมีกาต้มน้ำชาน้ำดื่มฟรีสองขวดด้วยนั่งพักให้หายเหนื่อยสักครู่555+ แค่นี้แม่ก็เหนื่อยแล้วค่ะ






ชั้นล่างสุดของโรงแรมจะเป็นห้างสรรพสินค้ามีsupermarket ParkNShop ร้านขายยาร้านอาหาร7-eleven และร้านค้าอีกมากมายของมีให้ซื้อเยอะและราคาถูกมากขึ้นลงสองรอบ555+ เสียเงินแต่เริ่มแม่อยากกินไอติมพอซื้อสองแท่งจะถูกกว่าข้างในอร่อยมากเป็นโอรีโออีกอันเป็นวนิลาวันนี้ขอตัวไปเดินซื้อของอาบน้ำพักเอาแรงเจอกันของจริงพรุ่งนี้ค่ะ

วันที่ 2 มิถุนายน 2562

Good morning ค่ะ ทุกคนนนนน ตื่นเช้ามาภาพตรงหน้าท่าเรือสุดลูกหูลูกตา มันสวยมากกก ตาสว่างทันที ลุกไปอาบน้ำ แต่งตัวพร้อมออกเดินทาง check out เรียบร้อย



เดินตัดสระว่ายน้ำ มาที่ป้ายรถเมล์เดิมที่ลงเมื่อวาน นั่งรถบัสสาย 42A ลงป้าย Gascoigne road 30 นาที ตรงสู่โรงแรม Evergreen Hotel สะดวกมาก ค่าโดยสาร 6.9 dollar จริงๆโรงแรมมีบริการรับส่งฟรีจากสถานีรถไฟใต้ดิน, Disney land และ Tsim Sha Tsui ด้วยนะ แต่ไม่ได้ลอง 55+



เดินมาที่โรงแรม Evergreen Hotel จากป้ายรถบัส 300 เมตร ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมได้เลย






หิวละ! เราซื้อชุดติมซำอาหารเช้า สำหรับ 2 ท่านไว้ที่ Lin Heung Kui Restaurant ร้านนี้ขอบอกว่าอร่อยมากกกกก วิธีการเดินทาง นั่งรถไฟมาลง Sai Ying Pun Exit A1 พอเดินมาถึงจะเจอป้ายใหญ่มากเห็นชัด ตรงหน้าประตูลิฟต์จะมีป้าย Michelin Best of the Best Dim Sum อยู่ แสดงว่าคุณมาถูกทางแล้ว กดลิฟต์ขึ้นมาชั้นสอง โอโห้ คนนนนนน มหาศาล แน่นทุกโต๊ะ ยังไงดี 555+ คุยภาษามือละที่นี่ เปิดแอพมือถือให้เขาสแกนเมนูที่เราเลือก ไม่ต้องคุยให้เสียเวลา คุยไม่รู้เรื่อง 555+




จากนั้นก็นั่งรอรอรอ กินชา ชาบนโต๊ะไม่ฟรีนะจ้ะ คนละ 13 dollar จ่ายเพิ่ม เลือกขนมที่เขาเข็นผ่านหน้ามากินรอเวลา แนะนำให้สั่งซาลาเปลาทอดเพิ่ม ลูกละ 10 dollar อร่อยมากกกก ร้อนๆเลย อาหารมาเสิร์ฟแล้ววว ฮะเก๋า ขนมจีบ อร่อยมั่กมาก ซาลาเปาหวานไปนิด เพราะไม่กินหวาน โดยรวมแล้วอร่อย ควรมา! อย่าถามหาเมนูภาษาอังกฤษนะจ้ะ ไม่มี เป็นร้าน local ท้องถิ่นที่แท้ทรู จัดการอาหารตรงหน้าให้เกลี้ยง นั่งลูบท้องกันสักพัก ค่อยไปลุยกันต่อย่อยเรียบร้อย จ่ายเพิ่มไป 56 dollar





เป้าหมายที่คุณแม่อยากไปคือไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ Tin Hau and Kwun Yum Statues Repulse Bay หาวิธีไปกันหน้างาน วิธีที่ง่ายที่สุดคือ นั่งรถ Tram หน้าร้าน Dim Sum มาลงสถานี Admiralty แล้วต่อรถบัสสาย 6X หรือ 260 ลงสถานี Repulse Bay Tower ใช้เวลารวมๆ 1 ชั่วโมง ชิวๆไม่รีบๆ นั่งรับลมที่ชั้นบน ชอบรถ Tram มันเห็นถึงความ Old town Hong Kong ที่มีมายาวนาน




รถจะวิ่งข้ามเกาะมาที่ อ่าว Repulse bay เหมือนเราไม่ได้อยู่ฮ่องกงละ เหมือนมาเที่ยว Europe หน้าร้อน คือสาย ฝ งานดีเต็มไปโหมดดดด หันจนคอแทบเคล็ด 555 repulse bay เป็นเมืองตากอากาศ ให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวพัทยา มีกิจกรรมให้เลือกทำเยอะ เช่น ปั่นจักรยาน เล่นน้ำ ฝึกโยคะ พายเรือ พาน้องสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น พาลูกๆมาเล่นเครื่องเล่นในสวนสาธารณะ


ส่วนสายชิวหน่อยก็นั่งจิบกาแฟใน Cafe คูลๆ





เราค่อยๆเดินเลียบชายหาดเพื่อไป Tin Hau and Kwun Yum Statues ตอนเดินเข้าให้ใช้ขาซ้าย ออกขาขวา ที่สักการะมีบทสวดภาษาไทยให้พร้อม อย่าลืมไปเดินข้ามสะพานศักดิ์สิทธิ์เพื่อต่ออายุ ห้ามเดินวนกลับทางเดิมนะจ้ะ





mission ของคุณแม่สำเร็จแล้ว ต่อไปเป็นตาของเราบ้าง เรามีนัดกันที่ Ocean Park วิธีเดินทางมาคือ นั่งรถบัสสาย 260 6X จากหาดมาลง Ocean Park Carpark ได้เลย

Ocean Park สวนสนุกสำหรับทุกเพศทุกวัย สวนสนุกเปิดบริการทุกวันเวลา 10.00 เป็นต้นไป ปิดไม่เท่ากันแต่ละวัน 
ก่อนเข้าต้องตรวจกระเป๋าทุกคน ไม่สามารถเอาพวกอาหารเข้าไปได้ เอาตั๋วที่ซื้อมาสแกนเข้าสวนสนุกได้เลยไม่ต้องเข้าคิว แถมถูกมากกว่าราคาหน้างานกว่าครึ่ง ฟินนนนน  พอผ่านประตูเข้ามาได้ เจอของจริงงงง โหหห กองทัพผู้คนนับร้อยมายืนรอหน้าเลือกเปิดสวนสนุก -....- รอไปค่ะ




ถ้าจะเล่นเครื่องให้นั่งกระเช้าขึ้นมาสวนสนุกด้านบนก่อน เราได้คิวแรกๆเลย เพราะพนักงานมาเอาเชือกกั้นตรงเราออกก่อนทำให้ได้ขึ้นกระเช้าคิวแรกๆ โชคดี 555+ นั่งกระเช้าขึ้นมาด้านบน 1 กระเช้านั่งได้สูงสุด 6 คน ถ้าให้ดี 2-3 คนก็พอละ กระเช้าค่อยๆเคลื่อนตัว ผ่านทิวเขาและทะเลเรื่อยๆ ระยะทางเรียกว่าไกล มันสวยมาก



ขึ้นมาด้านบน โซน The Summit คุณแม่อยากเล่นล่องแก่งหรือที่เรียกว่า The Rapids ไม่ใส่เสื้อกันฝนด้วยนะจ้ะ เปียกจะเหลือหรอ 555+


เสร็จเครื่องเล่นที่ 1 แรงดีไม่มีตก ต่ออันที่สองเลยไม่ได้พัก เครื่องเล่นคล้ายๆรถไฟเหาะในร่ม ตอนแรกนึกว่าจะชิวๆแค่หมุนๆ ที่ไหนได้ โครตมันส์ๆ เหวี่ยงให้สุด อย่าพลาด ชื่อเรียก Rev Booster




แม่ยังไหววววว...ต่ออันที่สามเลย รถไฟเหาะแบบเบบี้ ชื่อ Artic Blast ไม่ตีลังกา 555 แค่เหวี่ยงไปมา ทำไรชั้นไม่ได้แต่แม่ชั้นเริ่มไม่ไหวละ พักยกค่ะ พัก! เดียวเป็นลม พาแม่มานั่งพักตรงในร่ม เรามาต่อ ไปก่อนไม่รอละนะ ยังไงอันนี้แแม่ไม่ไหวแน่นอน เรามาจบที่ Hair Raiser รถไฟรางสูง ห้อยขา ตีลังกาหมุนติ้ว 555+ อันนี้แหละ มันส์สุดดดดดด ไปเลย รอบสั้นไปหน่อยยังมันส์ไม่หาย




และอันที่เล่นแล้วมันส์มาก แต่ไม่แนะนำสำหรับคนมึนหัวง่าย เพราะมันจะเน้นหมุนวน เช่น The Flash และ Whirlybird






ฮ่าฮ่า เริ่มมึน ร้อนมากกก ไหนฝน ไม่มีสักเม็ด ใช้ร่มมากางบังแดดแทน นั่งแช่ชมวิว มองเห็นโซนนั้นไกลๆ ไม่รู้ลงไปไงเลยไม่ได้ไป เสียดาย





ชวนแม่ไปฆ่าเวลาพักเหนื่อยที่ Ocean Theatre ชมเหล่าน้องแมวน้ำ อุ้งๆ และโลมา โชว์ความความน่ารัก



ดูโชว์จบขึ้นบันไดเลื่อนมา เจอกับ Pacific Pier บ้านของน้องอุ้งๆ ดูมันกัดกัน ร้องอีดอาดๆ อะไรจะดีปานนี้ นอนๆกินๆ




เครื่องเล่นสุดท้ายที่ได้เล่น คือ Raging River ตะลุยป่าคล้ายๆสวนสยามบ้านเรานั่งเป็นคู่ ไหลไปตามน้ำ เปียกอีกเช่นเคย รอบนี้ยอมใส่เสื้อกันฝน เล่นเสร็จแม่เริ่มไม่ไหวอีกรอบ เวลาถาม แม่จะบอกไหว แต่ท่าคือไม่ไหว อารมณ์ ไม่ไหวให้บอกไหว อากาศมันร้อนมากมาก แดดจัด ขนาดเรายังทนแทบไม่ได้ แม่ห้าสิบแล้วนี้ก็สุดยอดละ


พอแหละๆๆๆ ไม่ต้องเล่นหมดก็ได้ แม่จบที่สี่เครื่องเล่น ส่วนเราไม่ได้นับ คุ้มสุด มาไวต่อคิวเครื่องเล่นเร็ว ลงไปเดินเล่นชิวๆโซนด้านล่างดีกว่า นั่งกระเช้าลงมาด้านล่าง ได้พักขาช่วงนึง



โผล่ตรง Hong Kong Old town มุมถ่ายรูปละร้านอาหารไม่แพงเยอะดี




แทบโซน The Waterfont โซนนี้จะเป็นแนวเด็กน้อย ชิงช้าสวรรค์ หมีแพนด้า แบ๊วๆ


เรามาเข้าคิว The Grand Aquarium คิวยาวหลายขด งงใจ รอเกือบชั่วโมง 555 ทำไมคนเยอะขนาดนี้





ในที่สุดก็ได้เข้าสักที ด้านในมีตู้ปลาหลายขนาด ทั้งตู้ปลาจิ๋ว ตู้เล็กเน้นพวกปลาตัวเล็กแบบนิโม




เดินมาเรื่อยๆ ตู้ที่เห็นมี design แตกต่างกันออกไปทั้งแบบหน้าต่าง เพดาน และจุดที่ดึงดูคนได้มหาศาล คือ ตู้กระจกขนาดใหญ่ที่ทำให้เรามองเห็นเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยได้แบบ Panorama ตู้ที่เราชอบ คือ น้องปลากระเบน แมงกระพรุน และปลานับพันตัวที่ว่ายเบียดกันอยู่


ออกมาจากอควาเรียมทะลุออกมาตรงร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ จบทริปใน Ocean Park มาที่เดียวได้ทั้งกระเช้า สวนสนุก สวนสัตว์ อคาเลียม ทะเล ครบจบในทีเดียว คุ้มมากกกก เที่ยวทั้งวันยังไม่ครบเลย ต้องเลือกสิ่งที่ตัวเองชอบ และอยากไปดูมากที่สุด จัดสรรเวลาดีดี ส่วนอาหารราคาแรงมาก ถ้าจะกินให้กินแถวโซน old Hong Kong ราคาสมเหตุสมผลสุด อย่าลืมพก ยาดม ขวดน้ำ ทิชชู พัด ร่ม เสื้อกันฝนเอาไว้เล่นพวกที่เปียกๆมาด้วยนะจ้ะ

 นั่งรถไฟ MTR จาก Ocean Park มาเปลี่ยนสายที่Admiralty นั่งมาลงสถานี HKU ทางออก C2 มากินบะหมี่เกี๊ยวกุ้งอร่อยๆ ที่ร้าน  Keun Kee WOnton Noodle 




กด redeem คูปองเรียบร้อย เราเลือกบะหมี่เกี๊ยวกุ้งและผักกวางตุ้งน้ำมันหอยคนละชุด แค่เขาจะ redeem คูปองยังยากเลย 555+ ปวดหัว แต่ก็ทำได้ในที่สุด มาแล้ววววว หิวมากกกก หน้าตาน่ากินเกี๊ยวตัวใหญ่เบิ้ม ชามนึงมีเกี๊ยว 5 ตัว เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม แม่บอกอร่อยมากมากมาก เลยยกเกี๊ยวให้แกอีก 2 ตัวกลายเป็น 7 ตัว เอาเส้นแกมากินแทน อิ่มแน่น




หาทางกลับที่พักแบบไม่ต้องต่อรถ เอาสายเดียวถึงเลย กดเลือกๆดูให้ขึ้นสายรถบัส 971 เดินจากร้านเกี๊ยวกุ้งประมาณ 2 นาที มาลงสถานี Nanking Street,Nathan road แล้วเดินไปโรงแรมอีก 3 นาที ใกล้มากกก 





ถึงโรงแรม check in เข้าห้องพักมีบริการ Bell Service ด้วย พี่แกยกเข้าไปถึงในห้องเลย บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่ยอม เปิดประตูเข้าไปตกใจ เห้ยยย ได้อัพห้องฟรี จาก Twin room เป็น Family room สำหรับ 4 คน ห้องกว้างมากเป็นห้องมุม มีเตียงเดี่ยวสองเตียง เตียงคู่หนึ่งเตียง ห้องใหญ่มากๆ มีไวน์ในห้องด้วยแต่เสียเงินนะ 555+ น้ำเปล่าก็ไม่ฟรี แต่ลงไปกดฟรีในห้องอาหารได้ ฟินเลยยย เข้าไปอาบน้ำอาบท่าร้อนแดดมาทั้งวัน 

 


ออกมาใหม่ นั่งรถบัส 1A ลงสถานี Hong Kong Cultural Centre มุมยอดนิยมรอจนคนไปหมด 555+ เดินเล่นริมอ่าวอีกนิด เอาจริงๆคุณแม่ไม่ไหวจะเดินไปถึง Avenue of Stars 





งั้นพอแค่นี้กลับไปเดินเล่นช้อปปิ้งตรงแถวที่พักดีกว่า ฝนดันตกซะงั้นเดินไปแปบเดียวกลับเข้าที่พักอีกรอบ กลัวไม่สบายละหมดสนุก 

ประมาณ 2 ทุ่ม ตรงข้ามถนนเส้นคู่ขนานกับที่พักเดินไปสองนาทีจะเจอกับ Temple Street Night Market อารมณ์ถนนคนเดินบ้านเรา ของราคาถูกมาเดินเล่นกันได้ ได้ขนมของฝากมาเพียบ หมดไปอีก 1 วัน เข้าที่พักอาบน้ำอีกนอนเตรียมตัวนอน เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ

วันที่ 3 มิถุนายน 2562 

Good morning ทุกคนค่าาาาาาา ขาตึงมากเลยค่าาาา 555 ลุกไม่ไหวเลย แม่นอนกรนแสดงว่าเหนื่อยมาก เปิดวาปมาอีกเกือบเจ็ดโมง ลุกไปแปรงฟัน ลงไปรับประทานอาหารเช้าที่รวมมากับการจองโรงแรม เราได้มาคืนละ 1135 บาท เท่านั้นเอง ถูกมากเนอะ




สำรวจอาหารก่อน เราเลือกตัก ซุปหูฉลาม ปีกไก่น้ำแดง มันอบ ไข่พะโล้ต้ม ข้าวญี่ปุ่น ถั่วแระ ขนมปัง ผลไม้ อาหารมีให้เลือกเยอะและอร่อยด้วย ดีงามมมม กินหูฉลามไปหลายชามรู้สึกครีบจะงอก 555+ รับประทานอาหารเสร็จเตรียมตัวจะขึ้นห้องไปอาบน้ำ แม่ดันลืมกุญแจทั้งหมดไว้ในห้อง -....- โอ๊ยยยย ลงไปขอกุญแจเขามาเปิดใหม่ แต่เช้า ตอนแรกสมองยังไม่ตื่น 555+ กว่าจะได้อาบน้ำ เก็บของใส่กระเป๋า check out เกือบ 9 โมง




ออกมาปุ๊ป ฝนตกปรอยๆ เปลี่ยนแพลนกระทันหันสลับไปไหว้พระที่วัดก่อน วัด Che kung temple วัดนี้คุณแม่เลือกที่จะมา จากที่พักนั่งรถบัสสาย 81C ตรงถึงวัดได้เลย หรือลงสถานีรถไฟใต้ดิน Chu Kung temple exit B เดินลอดอุโมงค์และตามป้ายไป ไม่ยาก วัดเปิด 08.00 - 18.00 ทุกวัน ไม่มีค่าเข้าชม





พอไปถึงเจอทัวร์คนไทยพอดี เขาบอกวิธีไหว้อยู่พอดีไหว้ตามเขาไปเลย




อย่าลืมไปหมุนกังหันสามรอบขอพรให้โชคดี เอาสิ่งชั่วร้ายออกไป




จากป้ายรถบัสหน้าวัด ทำการบ้านกันหน้างาน ไปสวน Nanlian Garden ขึ้นรถบัสสาย 89B   หรือนั่งรถไฟใต้ดินมาลง Diamon Hill ทางออก C2




โผล่ขึ้นมาตรงห้าง Plaza Hollywood ระหว่างรอฝนหยุดตก ขึ้นไป shopping รอ แถวยูนิโาวมากกกก วันนี้มี collection เปิดตัววันแรก UNIQLOxKAWS 3 มิถุนายน  ...





ไปเถอะก่อนจะหมดตัว 555+ เดินตามรั้วไม้จะเจอทางเข้าด้านข้างสวน Nanlian โดยได้รับการออกแบบในรูปแบบสวนของราชวงศ์ถัง ผสมระหว่างจีนและญี่ปุ่น ทำให้สวนออกมาดูงดงาม เราสามารถหยิบแผ่นพับภาษาอังกฤษได้จากทางเข้า สวนเปิด 06.30-19.00 น. ทุกวัน ไม่มีค่าเข้าชม






ไปจุดที่สวยที่สุดก่อน ศาลากลางน้ำสีทองและสะพานสีแดง วิวด้านหลังเป็นเมืองและเนินเขาตัดกันอย่างลงตัว เหมือนวัดทองที่เกียวโตเลย แม่บอกว่าชอบที่นี่ที่สุด เดินเรื่อยๆมาตรงสวนกลางเมือง นั่งดูน้องปลาคราฟว่ายไปมา





เดินย้อนกลับมาที่สถานี MTR Diamon Hill นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลง Mong Kong ทางออก E2 เพื่อมาตลาด Lady Market แม่อยากได้เสื้อผ้าฮ่องกง โผล่ขึ้นมาตรง shopping street เลย ส่วนมากเริ่มตั้งร้านตั้งแต่ 11.30 น.เป็นต้นไป ที่นี่ไม่ได้มีขายแค่เสื้อผ้าผู้หญิงอย่างที่เข้าใจนะ มีทุกอย่าง แต่ต้องต่อราคาเยอะๆ เพราะราคาที่บอกมาแพงมากเว่อร์ๆ ต่อเกินครึ่งไปเลย ไม่ได้ก็ไม่ต้องเอา นอกจากเสื้อผ้าแล้วของกินก็เยอะ ข้างทางคุณสามารถหา Waffle Hong Kong และ ชาไข่มุกได้หลายทาง อยู่ที่ดวงคุณละว่าจะเจอร้านอร่อยหรือเปล่า เดินช้อปไป กินไป ชาแก้วละ 20 dollar waffle 8 dollar เท่านั้น




ได้เวลาอาหารกลางวัน เราซื้อคูปองร้าน Ki Restaurant ร้านห่านเจ้าดังเปิดมาตั้งแต่ปี 1976 เรานั่งรถบัส สาย 112 ตรงตลาดมาลง สถานี SOGO department store หรือลงรถไฟใต้ดินสถานี Causeway Bay MTR F1  รถขับผ่านร้านห่านพอดี เห็นคนต่อคิวยาวหลายขดออกมานอกร้าน งั้นเดินเล่นรอที่ห้าง SOGO ก่อนต้องมาดูของพอดี ห้าง SOGO เปิด 10.00-22.00 ทุกวัน






เดินเสร็จไปร้านห่านเลย คิวน้อยแล้ว แสกนคูปองมา รู้สึกจะถูกกว่าหน้าร้าน ชุดนึง ได้ข้าวหน้าห่าน+น้ำชานม ตก 109 dollar สั่งชาเย็น ได้ชาร้อน เขาเลยเอาน้ำแข็งมาให้อีกแก้ว -..- อาหารจานใหญ่ยักษ์สมราคา หนังเป็ดกรอบอร่อย ส่วนหมูย่างก็นุ่มละมุนลิ้น โดยรวมแล้วอร่อยคุ้มยืนเข้าคิว




มาลง central station ได้เลย ตรงข้ามร้านอาหาร ไม่อยากเดินย้อนให้เมื่อย เราเลือกที่จะขึ้น Tram รางเดียว เพิ่งเคยเห็นรถรางแบบเปิดชั้นบน Tram Harry Potter ก็มีนะ หรือจะมาลงสถานีรถไฟใต้ดินลง Central Station exit C 





มาต่อที่ย่าน Central และ ย่าน SOHO มันเชื่อมกันเดินหากันได้ เป็นมุมยอดนิยมที่คนฮิตถ่ายกัน ย่านนี้เต็มไปด้วย cafe ร้านกาแฟ บาร์ ชิคๆ street art เดินเข้าซอยนู่นทะลุซอยนี้มั่วไปหมด 555+

กลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรม Evergreen Hotel (Hong Kong) ไปสนามบินดีกว่า นั่งรถบัสสาย 104 มาลงสถานี Diocesan Girls' School หรือลงสถานีรถไฟใต้ดิน Jordan Station exit B1 



วิธีที่ไปสนามบินที่ถูกกว่า A21 คือนั่งรถบัส สาย E23A ตรงสถานี Woosung Street, Jordan Road ถึงสนามบินเลย ตกคนละ 14 dollar ประหยัดจาก 33 dollar เซฟไป 19 dollar



ผ่านจุดขึ้นกระเช้านองปิง และผ่าน Citygate Outlet ด้วย แวะไม่ไหวแล้ว เงินหมดแถมกระเป๋าหนัก 555+ ไปสนามบินเลยละกัน



รถบัสมาจอดตรง bus stop terminal 1/ terminal 2 ขึ้นลิฟต์มา Terminal 1 ต่อคิว check in Emirates ขนาดเผื่อเวลา 3 ชั่วโมง แถว check in ยังยาวมากกกกกก รอวนไปจ้ะ 555+ มีแต่ทัวร์ทั้งนั้นเลย พยายาม check in online ทั้งผ่านเว็บผ่านมือถือผ่านแอพก็ไม่ได้สักช่องทางบอกให้มาเช็คที่ Counter อย่างเดียว งงว่าทำไมขามา Check in online ได้ ใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการรอคิว....=____= ได้ boarding pass เรียบร้อย เจ้าหน้าที่น่ารักมาก ให้อภัยในการยืนรอ 1 ชั่วโมง แกเลือกที่นั่ง long legs ทั้งๆที่ไม่ได้ขอ




เดินลงบันไดมา 1 ชั้นมองหาป้าย lounge ลงตามป้ายไปจะเจอ Plaza Premium Lounge ป้ายเด่นเป็นสง่า ใช้บริการได้ฟรีจาก บัตรเครดิต JCB ทุกธนาคาร ยื่น boarding pass และ บัตรเครดิต




สำหรับใครที่อยากอาบน้ำก่อนขึ้นเครื่อง ห้องอาบน้ำต้องจองนะจ้ะ ไปถึงเราจองก่อนเลย เพราะบางทีอาจจะมีคนใช้อยู่ ต้องเข้าคิว เราไปช่วงที่ว่างพอดี เลยได้อาบน้ำเลย ห้องอาบน้ำมีผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน หมวกคลุมอาบน้ำ ไดร์เป่าผม ครบเตรียมแค่เสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนใหม่ไปพอ




อาบน้ำเรียบร้อยกินข้าวเย็นกันหน่อยเป็น fish ball noodle soup หรือก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลารวมมิตร มีเส้นเล็กกับเส้นใหญ่ เลือกได้ นอกนั้นก็ตักเอาได้เลย







ผ่านตม. เหลือเวลา 1 ชั่วโมงก่อน boarding time ไปช้อปปิ้งต่อที่ Disney Store เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในสนามบิน มีของให้เลือกเยอะ และราคาเท่ากับ Disneyland Hong Kong



จัดไปไฟกระพริบตา ฮือออออ มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด
รอขึ้นเครื่องกลับบ้าน flight ขากลับไม่ดีเลย์ สนามบินเราควรเผื่อ เวลา 3 ชั่วโมง เนื่องจาก GATE มีเยอะมาก บางGATE ต้องต่อรถไฟเข้าไปอีก



กลับบ้านแล้วนะ flight EK385 ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 20 นาที





Airbus A380 ที่นั่ง 3-3-3 รอบนี้ได้นั่งด้านล่าง หลังสุด แถว 80 B,C



เมนูอาหารรอบนี้มีสองอย่าง สปาเกตตีไก่ และข้าวปลาผัดเปรี้ยวหวาน เมนูปลาหวานไปหน่อย กินละนอนฟังเพลง พอถึงไปต่อรถบัสเข้า Arrival Terminal รับกระเป๋าเดินทาง รู้ว่าไม่ต้องรีบ 55+ ผ่านตม กระเป๋ายังไม่มาแน่นอน ได้กระเป๋าเรียบร้อย เรียกรถ limousine bus มารับไปที่รับรถ ขับรถ 15 นาทีถึงบ้าน เป็นอันจบทริปฮ่องกง 3 วัน 2 คืน

จบไปแล้วกับทริปพาคุณแม่เที่ยวฮ่องกง คุณแม่บอกพามาอีกนะ อยากได้มาซื้อเสื้อผ้า -..- 555+ ของชอบเขาแหละ ทริปนี้คุณแม่เแฮปปี้เพราะว่านั่งรถบัส เดินน้อย ลงมาก็เจอสถานที่ท่องเที่ยวเลย ทำให้ไม่ค่อยเหนื่อย ถ้าใครอยากพาคุณพ่อคุณแม่ลองหาเส้นทางรถบัสแบบเรานะคะ จะทำให้ทริปคุณง่ายกว่าการนั่งรถไฟเพียงอย่างเดียว และได้ชมวิวเมืองด้วย ไว้เจอกันใหม่ค่ะ สำหรับทริปนี้บายบายน๊าาาา

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 
จ่ายก่อนไป 
- ตั๋วเครื่องบิน ฟรี จากแต้มบัตรเครดิต
- ประกันเดินทาง ฟรี จากบัตรเครดิต VISA
- ที่พัก 1159.88 บาท คืนแรก ไม่มีอาหารเช้า
- ที่พัก 1135.52 บาท คืนสอง รวมอาหารเช้า
- ตั๋ว ocean park 1647 บาท 1 แถม 1 จาก KLOOK
- ซิมส์ 1 อัน 5GB ,  บัตร octopus 2 ใบ , ร้านติมซำอาหารเช้า 2 คน , ร้านเกี๊ยวกุ้งและผัก 2 ชุด , ร้านข้าวหน้าห่านและชานม 2 ชุด รวมทั้งหมด 1723.50 บาท
- ค่าจอดรถใกล้สนามบินพร้อมรถรับส่ง 224.70 บาท จอด 3 วัน 
- ค่าทางด่วนจากที่บ้านไปกลับ 60 บาท 
- รวมทั้งหมด 5950.6 ~ 5951 บาท  ต่อ 2 คน

จ่ายตอนไปใช้เงินสด 
เรท 1 ฮ่องกง = 4.07 บาท 
- เติมบัตรoctopus ใบละ 50 dollar ต่อใบ = 100 dollar
- ติมซำ 56 dollar สั่งเพิ่ม ชาและซาลาเปาทอด 3 ลูก
- ชาไข่มุก 20 dollar 
- ขนม Waffle Hongkong  8 dollar 
- ค่ารถกลับมาโรงแรมจาก Central 10 dollar ต่อคน = 20 dollar (จริงๆ 9.8 ดอลลาร์แต่ไม่มีทอน)
- ค่ารถไปสนามบิน 15 dollar ต่อคน = 30 dollar (จริงๆ14 ดอลล่าร์แต่ไม่มีทอน)
- รวมทั้งหมด 218 dollar เงินไทย = 887.26 ~ 888 บาท / 2 คน 

หารเฉลี่ยต่อคน 5951+888 = 6839 บาท / 2 คน 
เท่ากับหมดไป คนละ 3419.5 บาท ~ 3420 บาท