Bali : “บาหลี” ใครใครก็ไปได้ (5 วัน 4 คืน) งบ 14K #ทีมดีอะไรก็ดี
“บาหลี” เกาะในประเทศอินโดนีเชียถือเป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยและชาวต่างชาติ
เนื่องจากค่าครองชีพที่ไม่แพง
มีธรรมชาติที่สวยงามเต็มไปด้วยวัดวาอารามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ให้ได้ชมที่สำคัญจุดถ่ายภาพชิคๆ
เช่น นาขั้นบันได สวิง คาเฟ่เกาะนุสา ประตูสวรรค์
เราเองก็ไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปถ่ายรูปสวยๆกัน
บาหลี...ในรอบนี้จะพาไปจุดที่ห้ามพลาดเหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยไปบาหลีมาก่อนรูปที่ถ่ายจะไม่ใส่โทนสีจะได้เห็นว่า
"บาหลีของจริง” สวยมากแค่ไหน อาจจะมีปรับไม่ให้เอียงบ้างเนื่องจากจขกสายตาเอียง
ออกตัวก่อนว่าทริปนี้เรามีสูงวัยด้วยเรื่องเดินทางจำเป็นต้องสะดวกมีเที่ยววัดบ้างและเที่ยวแต่วันไม่หลายที่เน้นไปดื่มด่ำว่าแล้วก็ไปดูแพลนกัน
5 วัน 4 คืนเราจะพาไปไหนบ้าง...
วันที่1 - วันเดินทาง
- เดินทางออกจากประเทศไทยด้วย Thai Lion air
- เดินทางถึงสนามบินบาหลีอินโดนีเซีย
- เข้า Villa พักผ่อน
วันที่2 - เที่ยวทะเลหาดทรายและแสงแดด
- ร้านคาเฟ่ Canvas Cafe
- ไปทัวร์เกาะ Nusa Private tour
- kelingking beach, broken beach , angel billabong และ Paluang Cliff
- ร้านคาเฟ่ Penida Kekinian Cafe เกาะนุสา
- ร้านอาหาร Warung Serayu
วันที่3 - เที่ยวชมสถาปัตยกรรมวัดวาอาราม
- วัด Lempuyang Temple
- พระราชวังน้ำTirta Gangga
- ร้านอาหาร Liga Warung
วันที่4
- เที่ยวเข้าถึงธรรมชาติจัดจ้านงานถ่ายรูป
- ถ่ายรูป Uma Pakel Swing
- นาขั้นบันไดTegalalang rice terrace และร้านคาเฟ่
- ตลาด Ubud Centre and Art Market
- ร้านอาหาร Local Ibu Oka
- ร้านคาเฟ่ Milk and Madu Ubud
- ร้านของฝาก Krisna
- ช้อปปิ้ง Outlet
วันที่5 -
เที่ยวชิวๆนั่งเล่นในคาเฟ่และเรียนเซิฟ
- ร้านอาหาร Despacito Loft & Lounge
- เรียน Surf ครึ่งวัน
- วัด Uluwatu Temple
- เดินทางกลับบ้านด้วย Thai Lion air
- ถึงบ้านอย่างปลอดภัย
ก่อนเดินทางต้องทำอะไรบ้าง?!
1. จองตั๋วเครื่องบิน -
สายการบินที่ให้บริการบินไปบาหลีเวลาน้อยควรบินตรงมีเพียง 3 สายการบินการบินไทย, Airasia , Lion air ราคาตั๋วตั้งแต่สี่พันถึงหนึ่งหมื่นบาทแล้วแต่budget
ของแต่ละคนโปรมีออกมาเลือกเยอะของเราได้มาในราคา4,900
บาทรวมกระเป๋าเดินทาง20 กิโลกรัมถูกจริงๆ
2. จองที่พักโรงแรม -
บาหลีมีที่พักหลายราคาหลายแบบหลายเกรดขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเช่น บ้านพัก Villa
ริมทะเล โรงแรมในเมือง รีสอร์ตกลางหุบเขา
เราแยกพัก 3
ที่เพื่อความแตกต่างไหนไหนก็มาทั้งที
ที่แรก- Deva Bali Villa 2
คืน Villa ขนาดใหญ่เว่อร์ได้คะแนน 4.9/5 มี 6 ห้องนอน6
ห้องน้ำห้องนั่งเล่น 3 จุดห้องรับประทานอาหารมีห้องครัว outdoor และindoor
ห้องคาราโอเกะ พร้อมสระว่ายน้ำวนขนาดใหญ่ มีfloating
breakfast tray ให้ด้วยอยู่แถวในเมืองรวมอาหารเช้า
ที่สอง- Doni house and Villa Ubud 1
คืนได้คะแนน 4.8/5 มีinfinity pool กลางหุบเขารวมอาหารเช้าในน้ำ
เลือกจุดรับประทานอาหารเช้าได้ไม่ว่าจะ breakfast in bed, ห้องอาหาร,
หน้าระเบียงห้อง, floating breakfast หรือริมสระน้ำ
ที่สุดท้าย- Despacito Loft &
Lounge 1 คืนรีสอร์ตและร้านอาหาร
คะแนนรีวิวสูงปรี้ดดดด4.8/5 เช่นกันสไตล์ Greece สีขาวฟ้าริมทะเลย่านKuta
รวมอาหารเช้าไว้ เอาไว้เล่น surf สายฝรวมตัวกัน
ณ จุดนี้มันดีมากกก
3. จองรถเช่า
จองรถเช่าพร้อมคนขับจะขับเองหรือจะเหมาเขาก็ได้เราแนะนำเช่าเหมาเขาดีกว่าจะได้ไม่เหนื่อย
ทางที่บาหลีค่อนข้างแคบขับลำบากและรถติด นั่งสบายๆดีกว่า
ของเราโชคดีได้เจอไกด์และคนขับน่ารักแถมขับรถมีมารยาทสุดๆเป็นรถแบบ 20
ที่นั่งคันยาวเลย
4. จอง one day trip เกาะ
Nusa มีให้เลือกหลายเจ้า เช่น package จาก
KLOOK มีทั้ง Private และ
share รวมรถส่งหรือไม่รวม ราคาก็จะแตกต่างกันสะดวกดีจ่ายเงินก่อนไปได้เลย
4. ซื้อInternet SIM card Sims2fly,
Simsgointer , sims True หรือ local sims ก็ได้มีขายที่สนามบินที่สนามบินราคา10000
Rp หรือ 230 บาท 6GB
5. แลกเงินจากไทย ตอนนี้อัตราแลกเปลี่ยน 1000
Rp ต่อ2.3 บาทเงินไทยแข็งมากแลกเงินอันไหนก็คุ้ม
วันออกเดินทาง 27 กรกฎาคม 2562
พร้อมยิ่งกว่าพร้อมรออย่างใจจดใจจ่อไปกันเลยยยย
นัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองเวลา 11.30 น. Counter Thai Lion air เพื่อทำการ
check in สายการบินพี่เสือไม่มี Check in online ต้องมาเข้าคิว
check in เองนะจ้ะ เผื่อเวลานิดนึง
เราใช้บริการที่จอดรถเอารถมาจอดที่ใกล้ที่สนามบินแล้วเขาขับรถมาส่งสะดวกสุดๆวันละแค่
100 บาทเท่านั้น
Check in เรียบร้อย ground staff บอกว่าดีเลย์1 ชั่วโมง สวัสดี 555+ แต่เริ่มเลย ยังไม่แย่เท่าไรนัดรถของ Villa มารับจากสนามบินเผื่อเวลาไว้เยอะไม่งั้นเขาต้องมารอนาน สงสารรรร TT ทุกคนไปมีบัตร เลยชวนไปนั่งรอใน King Power Lounge จนถึงเวลา Boarding pass ใกล้เวลา Boarding ประมาณ 14.00 น. ลงไป Gate 5 ขึ้นรถบัสไปที่เครื่องบิน
ณ สนามบิน DPS บาหลี19.40
น.
เครื่องลงจอดอย่างปลอดภัย ลงจากเครื่องคนแรกๆ
รีบเดินไปหาใบเขียนตม. ปรากฎว่าไม่ต้องเขียนใบตมเขียนแค่ใบ custom เท่านั้น
สุ่มตรวจกระเป๋าเดินทางตอนออก ห้ามนำผลไม้สด
อาหารประเภทเนื้อสัตว์เข้าประเทศเด็ดขาดนะจ้ะ เดียวจะเดือดร้อน
ระหว่างรอกระเป๋าเดินทาง ลอง connect เน็ตของสนามบินดีอ่าาาา
เข้าง่าย เน็ตแรง เราเอาเน็ตมาลอง 3 ยี่ห้อ True DTAC AIS สามตัวและจะซื้อ
Local อีกอันเทียบกันไปเลยยี่ห้อไหนเวิร์คไม่เวิร์ค(สรุปจากทุกวันแนะนำ
DTAC Go inter เน็ตแรงไม่มีตกรองลงมาTRUE และAIS
ถ้าซื้อจากไทย) ผ่าน custom จะเห็น
counter ขายซิมส์การ์ดหลายยี่ห้อเห็นยี่ห้อ ooredoo
เคยใช้มาหลายประเทศอันนี้น่าจะดี 6 GB 100,000
Rp หรือ230 บาทไม่แพงเอาอันนี้แหละ
(ไม่ค่อยเวิร์คในประเทศนี้สัญญาณขาดๆหายๆเอายี่ห้ออื่นเถอะ)
ท้องไส้เริ่มหิวมาก เราไปหาอะไรกินกันไหม
เดินขึ้นไปชั้น 3 Departure Hall ทุกร้านในสนามบินเป็นร้าน Local
หมดเลยไม่มีพวก KFC Mc Burger King หรือเฟรนไซน์อื่นๆ
คาดว่าสนามบินอยากจะกระจายรายได้สู่คนในท้องถิ่นมากกว่า
เดินจนครบทุกร้านจบลงด้วยร้าน Wrap and Roll คล้ายๆเคบับรสชาติอร่อยดีทุกคนการันตี
ดู Google Map จากสนามบินไปที่พัก
1 ชั่วโมงเพียง 15 km เท่านั้น รถจะติดอะไรเบอร์นี้ งั้นพวกเราแวะ Supermarket
ก่อนดีกว่าหาสเบียงไปที่ Villa เดินจนซุปเปอร์ปิด
22.00 น. ปล. บาหลีเขาจะไม่ใช่ถุงพาสติกและหลอด
ต้องเตรียมถุงผ้าไปหรือซื้อถุงผ้าเขาใบละ10,000 Rp (23 บาท)
ราคาของไม่แพงเช่นพวกเครื่องดื่มเบียร์ Local ของเขาขวดละแค่.
17,000 Rp (39 บาท) เองงงง
มุ่งหน้าตรงสู่ Villa... ที่พักที่พักของเราตลอดสองคืนมีชื่อ
Deva Bali Villa ตอนแรกดูรีวิวมาแล้วว่าที่พักใหญ่และสวยราวกับวัง
ตอนแรกไม่เชื่อพอรถวิ่งผ่านประตูร้องว้าววววววทุกคน เพราะมันสวยมากกกก
Villa แบบ 6 ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว 5 ห้องน้ำอลังการงานสร้าง ห้องครัว 2 จุดแบบ Open
air และIndoor ห้องนั่งเล่น 3 จุดตรงห้องโถงสระน้ำและชั้นสอง มีห้องรับประทานอาหารด้วย
สระว่ายน้ำไล่ระดับตั้งแต่1.50 จนถึง2.5 เมตร กว้างยาว 8
คนไม่แน่นมีแผ่นที่ลอยน้ำให้ถาดfloating breakfast แถมเตาปิ๊งย่างขนาดมหึมาและมีห้องคาราโอเกะอีก
full option สุดๆ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีมากจริงๆ
ก่อนนอนคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าไกด์จะมารับ 7 โมงเช้าเขาเลยจะเตรียมอาหารให้ตั้งแต่ 6
โมงเช้าเลย อยากกินอะไรฃไปหยิบเมนูมีรูปภาพประกอบมาให้เลือก
ถ้านอนโรงแรมไม่มีทางได้กินสักมื้อแน่นอน เช้าขนาดนี้
พอพี่ๆอยากจะรีดผ้าเขาก็ยกเตารีดและแผ่นรีดมาให้เรียบร้อยเอาไปเลย 10 เต็ม 10
ไปเลยจ้ะ
วันที่ 2 : 28 กรกฎาคม 2562
Good morning ค่ะทุกคน รู้สึกนอนไปนิดเดียวเอง
เมื่อวานเห็นถาด floating แล้ว ต้องทำอาหารเช้าลอยน้ำสักหน่อย
ทำอาหารง่ายๆ จัดลงถาดเอง ออกมาดูดีพอใช้ได้ 555+ ถ้าไปร้านอาหารเสียเงินแพงอีก
อย่างพวก Cabina Bali หลังนิชนกันเลยในสระ แพงด้วย #ไม่แพงแถมได้รูป
ต้องอย่างนี้ซิ
เลือกเมนูง่ายๆ อย่างพวก Omelet และ
Toast เกรงใจเขาต้องลุกแต่เช้า อร่อยดี ประมาณ หกโมงครึ่ง รถมารอแล้ว รอต่อไปนะจ้ะ
555+ เรานัดกัน 7 โมง กว่าจะถ่ายรูปกว่าจะกิน เก็บล้างไม่ทัน รีบทักไปบอก Staff
เดียวกลับมาเก็บนะคะ ขอโทษที เขาบอกไม่เป็นไร ถ่ายรูปสวยๆ
ส่งให้เขาก็พอ
จากที่พักใช้เวลา 15 นาที
ไปท่าเรือ...รถมาส่งแถวท่าเรือ Sanur Port ต้องเดินเท้าเข้าไปอีก
เจอผู้คนนับหลายร้อยรออยู่ คนเยอะมากกกกกกก นักท่องเที่ยวแน่นทั้งหาด
ไปลงทะเบียนรับเอกสารเรียบร้อย เรือออก 08.30 น.
ยังมีเวลาเหลือไปหา Cafe ดีดีนั่งชิวกันดีกว่า
แถวนั้นมี Canvas Cafe ได้คะแนน 4.8/5 ร้านเปิด 07.00-19.00 ทุกวัน
เข้าไปเลย ร้านคาเฟ่ชิคชิค เครื่องดื่มราคาเฟรนลี่
พนักงานน่ารัก สั่ง take away พี่แกไม่มีหลอด เขาบอก no
plastic ละกินยังไง 555 เปิดฝาละยกกระดกงี้หรอ คิคิ วิ่งอีกแล้ววว กลับไปทันเรียกขึ้นเรือพอดี
ได้นั่งด้านหลัง เสื้อชูชีพมีไม่ครบคน หนักกว่านั้นคือไม่มีคนใส่เลย -..-
จากท่าเรือ Sanur ถึง
Nusa Penion Island ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
ถึงฝั่งละรู้สึกเป็นคนละเรื่องกับ Sanur เลย น้ำใสมากกกก
มองเห็นภูเขาไฟ ไกลๆ ยกกล้องขึ้นมาถ่ายภูเขา
คนนึกว่าถ่ายพวกเขา ยิ้มกันเต็มที่ 555 ตลกกกก เดินขึ้นฝั่งมา เกาะนุสา ต้องเสียค่าผ่านทาง
คนละ 25,000 Rp หรือ 58 บาท ไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์
ต้องจ่ายแยกเอง ไกด์ของเรามายืนถือป้ายรอรับแล้ว ใช้รถสองคัน
นั่งคันละ 7 คน แนะนำให้ซื้อ One Day Trip มา ไม่ควรมาเช่ารถขับเอง ทางมันแย่มาก
ฝุ่นเยอะ และถนนแคบเบียดแทบตกขอบถนน รถวิ่งสวนกันไม่ได้
ต้องหยุดละรอให้อีกคันไปก่อน ไกด์จะพาเราไปสองจุดแรกอยู่ที่เดียวกัน คือ broken
beach และ angel billabong ตามด้วย
kelingking beach จากท่าเรือใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
ระยะทางไม่ไกล แต่ถนนเป็นลูกรังและเดินรถทางเดียว พอรถสวนก็ต้องแอบเข้าข้างทาง
ทำให้เสียเวลา ถึงกับถามคนขับรถเลย ทำไมเขาไม่พัฒนาถนนให้ดีกว่านี้
เขาบอกชาวบ้านเลือกที่จะรับเงินเข้าบ้านมากกว่าทำถนน เฮ้อออ
ทำไมเขาไม่คิดว่าถนนทำให้ความเจริญเข้าถึง
ในที่สุดหลังจากไส้และท้องเขย่าจนแทบอยากอ้วก
ก็ถึงสักที มันสวยมากกกก พวกเราตกลงใจจะเสียเงิน 5,000 rp ต่อคน(12
บาท) ในการถ่ายรูปกับรังนกทั้งสองแบบ น้ำทะเลมันใส
จนลืมความลำบากของเส้นทางที่มาก่อนหน้า
สวยมากโดยเฉพาะจุด broken beach ตรงหาดมี
Gelato icecream ขายด้วย ไม่พลาดที่จะลองชิม รสเสาวรสดีงาม
หมดเวลาไปกับสองจุดแรกนานสุดๆ มันต้องเดินขึ้นเนินไปเยอะเหมือนกัน
รู้ตัวอีกทีเกือบบ่ายโมงแล้ว ไปหาข้าวกินกัน
ไกด์พาเราไปร้านอาหาร Local ชื่อ Warung ... จำไม่ได้
มารู้ที่หลังว่าคำว่า Warung แปลว่าร้านอาหาร 55
ถึงว่าชื่อซ้ำกันไปหมด เขาให้เราเลือกอาหารและน้ำอย่างละเมนู อาหารจัดว่ากินได้
คล้ายมาม่าน้ำและไข่ดาว กับ Nasri ของมาเลเซีย แต่น้ำหวานไป
เหมือนกินน้ำตาลล้วนๆ คนเยอะ รอนาน เกือบสองโมงแล้ว น่าจะไปได้อีกแค่สองที่เท่านั้น
จากร้านอาหารไป kelingking beach แค่
10 นาที จากที่จอดรถต้องเดินเท้าเข้าไปอีกค่อนข้างลึกและชัน
เห็นวิวแล้วมันว้าวจริงๆ สวยมากกกกก ภาพ nofilter ไม่มีปรับใดใด
อัดวิดีโอมาก็เป็นแบบนี้เลย คุ้มละวันนี้ ลืมทางที่ผ่านมาทั้งหมดว่าลำบากแค่ไหน
ต้องมานะทุกคนนนนนนน มันดีย์สุดๆ Heaven on earth
ไปจุดไกลๆไม่น่าทัน งั้นไป Paluang
Cliff ห่างจาก kelingking 4
นาที จุดนี้เป็นจุดชมวิวมุมสูง สวยเหมือนกัน แต่ไม่เท่าตรงจุดชมวิวไดโนเสาร์
ดีตรงไม่ค่อยมีคน เงียบสงบดี มีเรือยื่นลงไปในน้ำ เสียค่าถ่ายรูป 20,000 Rp (46 บาท) พอจะถ่าย
มุมดันย้อนแสงเลยไม่ได้เงินพวกเราไป ได้ภาพกลุ่มรวมจากจุดนี้ 555+
ไกด์พาพวกเราไปส่งที่ท่าเรือ พอไปถึง 4 โมง เรือดีเลย์อีก จากปกติ 4 โมงครึ่ง กลายเป็น 5 โมง รอไปชั่วโมง ไปหาพวกร้านนั่งเล่นกันดีกว่า เดินผ่านย่านชิคๆ กราฟิคเกร๋ๆเพียบ จากท่าเรือมา 400 เมตร
ร้าน Penida Kekinian Cafe ได้คะแนน
4.6/5 เปิดทุกวัน 08.00-22.00 น. ขายพวกน้ำและ bowl ทั้งหลาย
ทำช้ามีความประณีตสูง 555+ อร่อย ราคาไม่แพง น้ำแก้วละ 15,000 Rp 35
บาทเท่านั้น Bowl 75,000 Rp (172
บาท) ชามใหญ่ แถมรสชาติดีมากๆ
กินไปสักพัก พี่ที่รอแถวท่าเรือ Line ตามเขาเรียกขึ้นเรือแล้ววว
มาไวไว เอาแล้วไง เอ๋วิ่งดิ วิ่งดิ 555+ หอบเลย กลัวตกเรือไม่ใช่อะไร
เป็นรอบสุดท้ายด้วย ทันพอดิบพอดี ไม่มีที่นั่งอีกเช่นเคย กาปเรือเลยจ้ะรอบนี้
เอาเบาะมาปูเพิ่ม ขากลับหนักกว่า ไม่มีเสื้อชูชีพสักตัวววว ร้องไห้หนักมาก ขากลับกัปตันรีบ ทำเวลา มันน่ากลัวสุดๆ
น้ำซัดเข้าเรือเยอะมาก แล้วก็อยากอ้วก กลัวก็กลัว มองหน้ากัน
จะกระโดดออกจากเรือยังไงดีถ้ามันคว่ำ พอเอียงที เสียงกรี้ดดังลั่นเรือ
คว้าถังมากอดไว้เลย อย่างน้องก็รองอ้วกกับทำให้ลอย คิดไปไกล
ตอนนั้นมันน่ากลัวมากกว่าตลก TT พอเห็นฝั่งทุกคนถึงกับตบมือ
รอดตายแล้วโว้ยยยยย กลับถึงฝั่งพระอาทิตย์ตกดินพอดี
ทัวร์พาเราไปส่งที่พัก
เราให้แวะส่งที่ร้านอาหารเจ้าดัง ขนาด Grab ยังมารอคิว
ชื่อร้าน Warung Serayu อาหารราคาถูก ของถูกและดียังมีอยู่จริง
กุ้งชุปแป้งทอดจานละไม่ถึงห้าสิบบาท
สั่งแบบเต็มโต๊ะ Enjoy Dinner กันสุดๆ ตบท้ายด้วยขนมหวาน
น้ำแข็งใสไอติมเหมือน MK เลย ดีงามมม
ขากลับเดินกลับที่พักประมาณ 900 เมตร แวะซุปเปอร์เหมาเครื่องดื่มไปต่อริมสระ
เปลี่ยนชุดมากระโดดน้ำ ย่อยอาหาร พอ Staff เห็นเราว่ายน้ำกัน
รีบยกผ้าเช็ดตัวมาให้เป็นตั้ง น่ารักที่สุด สุดยอดความใส่ใจ เจอกันพรุ่งนี้
เดียววันนี้ขอตัวไปใช้ facility ที่พักซะหน่อย บายจ้า
วันที่ 3 : 29 กรกฎาคม 2562
วันที่สามที่บาหลีแล้ว เรานัดไกด์ตอน 07.00
อีกเช่นเคย เจ้าหน้าที่ตื่นมาทำอาหารเช้าให้เราเช้าอีกวัน
สิ่งที่แตกต่างคือวันนี้เป็นคนขับอีกเจ้า ดีลอะไรเยอะแยะ งงตัวเองเหมือนกัน 55+
ทานอาหารเช้าเสร็จ ยกของลงมาข้างล่าง
ตอนนี้ 7 โมงละยังไม่มา อีนี้ก็หัวร้อนแล้วทักไปหาเอเจนซี่ทำไมยังไม่มา
เรานัดกันกี่โมง เขาบอกรอแปบนึง รถติด ระหว่างรอ ตั้งกล้องถ่ายรูปรวมรอหน้าประตู Villa ผ่านไป 10 นาที เห็นรถใหญ่โตวิ่งเข้ามาใน Villa
เรา แกแนะนำตัวเองว่าชื่อ ออร์ก้า พูดภาษาอังกฤษคล่องมาก 2 in
1 ไปเลยจ้ะ ทำหน้าที่ไกด์และคนขับรถ ออร์ก้า บอกว่าจากที่พักไป Lampuyang
Temple - Heaven Gate ใช้เวลา
3 ชั่วโมง แค่ 60 โล -...- วัดเปิด 07.00 - 17.00 น. ทุกวัน.
ระหว่างทางเห็นวิวนาข้าวตลอดสองฝั่งทาง
อากาศดีจริงๆ มาถึงวัด 10.30 น. รถเราใหญ่โตมโหราฬ
เจ้าหน้าที่ไม่ให้เราเอารถขึ้นไปต้องเสียเงินแว๋นมอเตอร์ไซค์ 14 คัน ขึ้นไปด้านบน
ขาละ 20000 ต่อคน (46 บาท)
ขึ้นมาด้านบนได้ ทุกคนต้องนุ่งสโลง
ไม่ว่าจะใส่เดรสยาวแค่ไหน เสียเงินต่อก่อนจะเข้าวัดต้องทำบุญทุกคน แล้วแต่ศรัทธา
พร้อมกับอธิบายกฎระเบียบให้ฟัง
เดินขึ้นเนินมา ด้านบนมีสองฝั่ง
ฝั่งที่เป็นเจดีย์ กับอีกฝั่งเป็นประตู
เห็นคนร้องว้าววว โผล่หน้าไปดู
คู่รักนักเต้นหรือเปล่าเนี่ยยยยย สวยมากมาก ไม่ลืมจะถ่ายมาบ้าง ของจริงคือแบบนี้
ส่วนวิธีการคือเอากระจกสะท้อนให้เรา
เดินไปเข้าคิว ถ่ายรูปกับประตู Heaven Gate
เห็นแถวแล้วก็ไม่ได้ยาวนิ เห็นสั้นๆไม่สั้นนะ เพราะอะไรรู้ไหม
เพราะว่า ตอนรอเขาให้สลับกันมาต่อคิวได้ ข้อเสียคือทุกคนทำเหมือนกัน เห็นแถวแค่นี้
มาเป็นกลุ่มที่ละ 20 คน น้ำตาจะไหลลล โดยเฉพาะทัวร์จีนให้ไกด์มาต่อรอ
มาแบบกลุ่มใหญ่ต่อคนเดียว เพลงมา~ อีกไกลแค่ไหนจนกว่าจะใกล้บอกที TT
ร้องไห้ สลับกันมายืนบ้าง เข้าห้องน้ำบ้าง เดินเล่นถ่ายรูปบ้าง
ยังดีวันนี้อากาศเย็นสบาย เห็นภูเขาไฟอากุงชัดเจน
รอไป 5 ชั่วโมงกว่าจะถึงคิว ตั้งแต่
10.30-15.40 น. แถมพอถึงคิวเจ้าหน้าที่ก็รีบถ่ายเหลือเกิน ให้คนละ 3 ท่า ประมาณ 3
วินาที (ค่าถ่ายรูปขึ้นอยู่กับว่าจะให้เท่าไร ตั้งแต่ 5,000 Rp ขึ้นไปต่อคน)
ถ้ารูปดีสมการรอคอยจะไม่บ่นเลย เจ้าหน้าที่ถ่ายให้แย่มากกก เบี้ยว ไม่เห็นยอด
สะท้อนพัง ขึ้นฝาอีก TT เข้าใจว่ารีบมาก สรุปถ่ายเองสวยกว่า
ยอมไปนั่งตากแดดดข้างๆเขา ชีวิตนี้ไม่เคยรออะไรนานขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ถ้าใครจะมา
พกขนม อาหาร powerbank หูฟัง เน็ตที่คิดว่าแรงที่สุดมารอได้เลย
ขากลับก็แว๋นมอเตอร์ไซค์ลงมาอีกรอบเสียเงินเท่าเดิม
ไกด์บอกมารอบหน้าควรมาถึงตั้งแต่ตี 5 ช่ายหรอ คิดหนักหนักจะมาดีไหม
ด้วยความที่ท่องเที่ยวปิด 18.00 เกือบทุกที่
เราต้องเลือกแล้วแหละ ว่าจะไปไหนอีกที่ดี ตกลงเลือก Tirta Gangga เปิด
08.00-18.00 น. ตั้งอยู่ทางใต้ห่างจากภูเขาไฟอากุงไป 12 กิโลเมตร
เป็นอดีตพระราชวังที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1946
ตอนนั้นภูเขาไฟอากุงระเบิดทำให้ทำลายพระราชวังไปแทบทั้งหมด
จึงเหลือเพียงบางส่วนที่ยังเห็นอยู่ เสียค่าเข้า 40,000 Rp (92
บาท) เข้าไปด้านใน มีเจดีย์กลางน้ำและให้อาหารปลาคราฟ
รู้สึกไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป
ที่ถ่ายรูปต้องเดินบนแผ่นหินบนน้ำต่อเนื่อง
ออกก็ไม่ได้ และนิคือจุดเริ่มต้นสงคราม ไทย-เวียด เนื่องจากแก๊งสาวเวียด (สวยมาก)
ถ่ายรูปไม่เสร็จสักที ยึดครองแผ่นหิน เอากระโปรงครอบไว จนเดินไม่ได้
พอขอทางเดินหน่อย ไม่ยอมให้ไปไง ยังคงกั๊กที่ต่อไป อะไรของมัน 555+ หลบบบ
ทีมเราเริ่มหัวร้อนแล้ว พูดหลายรอบมาก ตอนแรกยังคิดจะตบไหม น่ากลัวมากกกก โอ๊ยยย #บาหลีจะลุกเป็นไฟ
ของจริงง วันนี้มันอะไรกันนี่
ก่อนกลับเขามีพิธีการ แวะดูสักพัก
ไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่า ใจจะได้เย็น
เหนื่อยกับการรอคอยมาทั้งวัน เมื่อวานถ่ายรูปเหนื่อย วันนี้รอเวลาเหนื่อย
ถึงเวลาพักผ่อนจริงๆสักที วันนี้เราจัด Dinner
แบบหรูหราหมาเห่า กันที่ร้าน Liga Warung เปิด
11.30-23.30 น. เมนูพวก steak ดี จบบิลโดน charge 17%
นึกว่าอยู่เมก้า เมนูอาหารถือว่าอร่อยเลยให้อภัย ราคาเบียร์และน้ำ ราคาพอกันๆ เลี้ยงข้าวไกด์เราด้วย ออร์ก้าดูมีความสุขมาก
เขาบอกว่าที่นี่ได้เงินน้อยมากๆ เขาชอบกินผลไม้ แต่ราคามันแพง จัดไปค่ะพี่
Dinner เสร็จ สามทุ่มพอดี เข้าที่พัก Doni House and Villa Ubud ที่พักแนวโรแมนติคแบบเหมาะกับพาคู่รักมาฮันนีมูน มี infinite pool ริมป่า Villa เอา Welcome Drink เป็นน้ำลิ้นจี่ มาเสิร์ฟ อร่อยยยย
จองมา 7 ห้อง ทั้ง Villa มี
8 ห้อง ห้องดีทุกห้องยกเว้นห้องเตียงคู่ ใครจะมาพักอย่าจองห้องนี้
ไม่มีแอร์ห้องเดียวทั้งโรงแรม ไม่เคยถึงที่พักก่อน 3 ทุ่มเลยให้ตายซิ Staff
น่ารักทุกคนเลย ให้เลือกเมนูอาหารและจุดที่จะรับอาหารเช้า มีทั้งหมด
5 จุด บนเตียง หน้าระเบียงห้อง ห้องอาหาร ในน้ำ หรือริมสระ เลือกริมสระและในน้ำ #อร่อยไม่อร่อยไม่รู้หนูต้องได้รูป
ไปเปลี่ยนชุดลงมาเล่นน้ำกันก่อนแยกไปนอน เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ
วันที่ 4 : 30 กรกฎาคม 2562
Good morning ทุกคนค่ะ ตื่นมาหนาวมาก
เปิดดูโทรศัพท์มือถือ 18 องศาเอง เมือง Ubud เป็นเมืองบนภูเขาทำให้มีอากาศเย็นกว่าเมืองอื่น
ด้วยความเคยชินทำให้ตื่นเช้าเหมือนเดิม พระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี
เพื่อนๆก็ตื่นด้วยงั้นจัด Fashion ริมน้ำกันสักหน่อย ที่พักนี้มีสระน้ำแบบ
infinite pool เห็นวิวป่าด้านหลังอย่างสวยงาม
เป็นมุมที่พระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกพอดี สาวๆของเราเอาชุดว่ายน้ำมาคนละหลายชุด
ขึ้นๆลงๆถ่ายรูป ยามเช้า 500 รูปคน แซ่บๆทั้งนั้น ถ่ายปวดข้อมือไปหมด 555+
นานๆจะได้มาที่ เข้าใจ เอาให้สุดไปเลยจ้ะ
ประมาณ 7 โมง พนักงานยก Floating Tray มาเสิร์ฟ
2 อัน เราจ่ายค่าถาดเพิ่มอันละ 100,000 Rp หรือ 230 บาท ต่อถาด ถือว่าไม่แพง
ส่วนอาหารจุดอื่นๆ ฟรีรวมกับค่าห้อง
พวกเรารวมตัวกันแถวสระว่ายน้ำ มีความสุขกับอาหารเช้า ไม่ต้องรีบแบบทุกวัน
08.30 น. ไกด์มารับเราตามเวลานัด เราจะไป Uma
Pakel Swing ห่างจากที่พักไป 5 นาที Uma pakel เปิด
07.00-19.00 น. ค่าเข้าฟรี เสียค่าเล่น Swing คนละ
200,000 Rp หรือ 430 บาท ราคานี้รวมอะไรบ้าง : รวมค่าเล่น swing
1 ครั้ง เลือกจาก 4 จุด
ไม่จำเป็นต้องเอาอันที่สูงที่สุดให้เลือกอันที่ถ่ายรูปแล้วสวยที่สุดแทน ในรอบ 1
ครั้ง เขาจะแกว่ง ให้ทั้งด้านและหลัง ด้านละ 10 ครั้ง กรี้ดร้องงง 55+ กลัววว
(นานมากกกก) เวลาเขาแกว่งให้ผู้ชายจะสูงกว่า และมีโชว์กระโดดเกาะ งืออออ
ไม่ร่วงเนอะ สำหรับสูงวัย มีชิงช้าเบาๆให้เล่นด้วยนะ เสร็จจาก Swing ไปต่อที่รังนก
เขาเทคแคร์ดีมาก คอยยกบันได ยกเก้าอี้ออกให้ ใส่นู่นนี้ให้
ที่นี้ตอบโจทย์ทุกคนไม่ว่าจะสูงวัย
วัยรุ่นได้หมด นอกจาก Swing ก็ยังมี พวก ชิงช้า รังนกแบบต่างๆ
และกาแฟ ชาให้ชิม รวมใน package แล้ว...
เข็ดจากเมื่อวาน...วันนี้เลยทำเวลาได้ดีขึ้น
เสร็จเร็วขึ้น สถานที่ต่อไป Rice Terrace Ubud ขับรถมาจากจุดแรกไม่ไกลกันจาก
Swing 2 นาทีเห็นจะได้
คุณจะเจอกับนาขั้นบันไดอันกว้างใหญ่ Rice
Terrace เปิด 07.00-18.00 น. เสียค่าเข้าคนละ 10,000
Rp หรือ 23 บาท ช่วงนี้นาขาวยังไม่เขียวขจี ถ้าอยากให้เขียวกว่านี้ต้องมาหน้าฝน
แต่ก็มีมุมสวยๆให้ถ่ายอยู่บ้าง พวกเรายังคง concept #นาจะเขียวไม่เขียวไม่รู้กลุ่มหนูต้องได้รูป
ถ้าอยากได้รูปสวย ถ่ายจากบนสุดจะเห็นเวิ้งอันไกลโพ้น จุดนี้เรายืนคือสวยที่สุดแล้ว
ข้างๆกันมี cafe ด้วย
ร้านดี แต่รสชาติอาจจะไม่ถูกจริตเท่าไร
ทริปนี้นอกจากจะต้องถ่ายรูปให้สวย ดูหล่อ ดูแพง
ดูผอม แล้วยังต้องเอารูปขึ้นให้ไว แบบถ่ายเสร็จแล้วเอาขึ้น และรีบส่ง airdrop
พร้อม post check in ทันที
555+ ตอนนี้หิวข้าวและปวดข้อมือแล้ว 1 วัน 1 พันกว่ารูป
ไปสถานีต่อไปกันเลย .. Ubud Art Market
Center แหล่งรวมของฝาก งานศิลป์ Cafe ร้านอาหารสุดชิคของเมือง
Ubud ไกด์พาเราไปปล่อยหน้าร้านอาหาร Local ราคาไม่แพง
ชื่อร้าน Ibu Oka เปิด 11.00-19.00 น. ทุกวัน
ร้านขายเฉพาะเมนูหมูเท่านั้น เป็นร้านยอดนิยมของคนท้องถิ่น ราคา 55,000-70,000
Rp (127-161 บาท) พอกินได้ ไม่ชอบเครื่องเทศเท่าไร มีพี่ไม่กินหมูด้วยเลย
พาพี่ไปซื้อ Pizza และเค้กร้านข้างๆ
ร้าน Local ชื่อร้าน Cafe Milk and Madu ร้านสวยมากกกก
ชิคๆคูลๆ ฝรั่งทั้งร้าน 555+ งานดี อาหารราคากลางๆ ไม่แพงเว่อร์
เก็บภาพรอ
พนักงานเดินเข้ามาช่วยถ่ายรูปให้หน่อย งง 555+ ได้จ้ะๆ ยิ้มน่ารัก ถ่ายให้ก็ได้
จัดไป10 กว่าภาพ น้องแกไปเรียกพนักงานคนอื่นออกมาถ่ายด้วยกัน ถ่ายเสร็จแอด what
app ส่งรูปตรงนั้นเลย หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จได้เวลาแยกย้ายกันไปช้อปปิ้งนัดเวลาเจอกันที่ร้าน
Cafe ที่เดิม เดินเล่นนิดหน่อย
ก่อนจะกลับมาสั่งเครื่องดื่มนั่งรอชิวๆ ทุกคนตรงเวลาเป๊ะ
กลับมาพร้อมกับของเต็มสองมือ และเงินที่หมดเกลี้ยง โดนบ่นเบาๆ
น้องให้พี่แลกเงินมาน้อยไปนะ พี่ไม่พอใช้ 555+ เอามาแลกหน่อย ให้จนแทบจะหมดตัว
โทรเรียกไกด์มารับ ยิงยาวเข้าเมือง รถติดเพราะวันนี้เป็นวันเลือกตั้งของเขา
ปกติว่าติดแล้ว วันนี้หนักกว่าเดิม ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง มาถึงฝั่ง Kuta ออร์ก้าแวะให้ซื้อของฝากที่ร้าน Krisna
Oleh - Oleh Bali Sunset Road ร้านเปิด 08.00-22.00 น. อารมณ์ร้านเจ้เล้ง
ของฝาก เครื่องสำอาง ครีม ขนม มีทุกอย่างราคาไม่แพงด้วย
ได้คนละนิดคนละหน่อยติดไม้ติดมือ ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย สถานีต่อ Outlet ตลอดสองข้างทางย่านสนามบิน
DPS เวลานี้คือรูดบัตรแทนเงินสด เอาเงินไว้ใช้ก่อน
ของถูกมากกก พวก Rip Curl อะไรแบบนี้
หมดเวลา หมดเงิน ยิงตรงเข้าที่พัก Despacito
Loft & Lounge ตรง South Kuta ที่พักสไตล์ขาว
ฟ้า มีร้านอาหารด้วยนะ ร้านอาหารเปิด 07.30-22.00 น. ส่องเมนูอาหารแล้ว ราคาถูกเลย
เข้าห้องก่อนละกัน ค่อยมา Dinner ร้านในที่พัก เราจองทั้งหมด 4 ห้อง
ห้องนอน 4 คน 2 ห้อง ห้องนอน 2 คน อีก 2 ห้อง ในห้องจะมีห้องครัวและห้องน้ำ
บรรยากาศชิวๆ ริมสระน้ำ ของโรงแรมที่พัก
สั่งอาหารสำหรับ Dinner เต็มโต๊ะ
Pizza, Smottie, Bowl , Salmon Steak , สปาเกตตี้ , โรล
, อาหาร Local หน้าตาดีและอร่อย กินเสร็จบางกลุ่มเข้าห้องอาบน้ำนอน อีกกลุ่มไปนั่งชิวต่อ
เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ เรามีนัดเล่น Surf กัน ....
วันที่ 5 : 31 กรกฎาคม 2562
เซิฟจะเริ่มตอน 09.00 เป็นต้นไป
ก่อนไปรับประทานอาหารเช้าที่พักก่อน อาหารรวมไว้กับค่าห้องพักแล้ว จะมีพวก Indo
กับ Western ให้เลือก ไม่จำเป็นต้องพักที่นี่ก็สามารถเข้ามารับประทานอาหารได้ปกติ
ที่พักน่ารัก สีสันสดใส
รับประทานอาหารเสร็จ เดินไปจุดนัดเล่นเซิฟ
ก่อนอื่นต้องวอร์มร่างกายก่อน เรียนรู้ทักษะพื้นฐาน
บอกเขาไปแล้วว่าไม่เคยมีใครเคยเล่นมาก่อน เขาบอกไม่ต้องกังวล เดียวเขาจะดูแลเอง
เจ้าหน้าที่ที่ติดต่อไว้เป็นคนสอน Surf อันดับ 1 ใน Tripadvisor เขาค่อยๆสอน ฝึกท่าทางก่อนจะเล่นจริง
สิ่งที่คิดก่อนและหลังต่างกันสิ้นเชิง ต้องใช้พลังทั้งตัว เหนื่อย และสนุกมากๆ
เป็นเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี ใช้ทุกส่วนของร่างกาย ปะ พร้อมแล้ววว ลงทะเลกันเลย ทุกคนยืนได้ในทะเล
แต่ไม่ได้ถ่ายรูป ถ่ายไม่ได้มันไกลไป ค่าใช้จ่ายต่อคนคนละ 400,000 Rp หรือ
920 บาท รวมค่าชุด อุปกรณ์ Staff ต่างๆ หมดแล้ว มาแค่ตัวเปล่าได้เลย กลับเข้าที่พักแบบสะบักสะบอม ปวดล้าไปหมด
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า check out รอออร์ก้ามารับตอน 12.30 น.
หิวสุดๆ หมดพลัง ย่อยไปกับ Surf งั้นกินข้าวกันก่อนดีกว่า
แวะรับประทานอาหารกลางวัน
สถานีสุดท้ายของทริปนี้ Uluwatu Temple มีค่าเข้าชม
50,000 Rp เท่ากับ 115 บาท เปิด 08.00-18.00 น. ทุกวัน
ที่นี่เป็นวัดของศาสนาฮินดู ตั้งอยู่บนผาริมทะเลทำให้วิวสวยมากๆ
ไกด์ไปส่งที่สนามบิน เป็นอันจบหน้าที่ของเขา
เราไปเข้าคิว check in โหลดกระเป๋า เตรียมตัวกลับบ้าน
ในสนามบินอย่างที่บอกมีแค่ร้าน Local แต่ shopห
สำหรับซื้อของอลังการยังกับอยู่ห้างขนาดใหญ่ brandname เพียบ
อย่าลืมเผื่อเวลาไว้ช้อปปิ้งด้วยนะคะ เดินทางกลับบ้าน ถึงตอน 01.00 น. แบตหมดแล้ว
ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะจ้ะ แล้วเจอกันใหม่
สำหรับทริปนี้ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ
ที่ตรงต่อเวลา น่ารักทุกคน ถึงกลุ่มเราจะใหญ่แต่ก็ไม่เรื่องมาก #ทีมดีอะไรก็ดีของจริง
หวังว่าทุกคนจะมีความสุขนะคะ เราจะไม่กล่าวคำอำลา ไว้เจอกันใหม่ "We
will not say goodbye just see you later" เจอกันศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้
สิงคโปร์มาเลเซีย 3 วันก็เที่ยวได้
สรุปจากทริปนี้ สิ่งที่ควรรู้!
- เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม
- ค่าเงิน Rp 100,000
Rp = 230 บาท
- คนอินโดนับถือศาสนาฮินดู
- ตั๋วเครื่องบินไม่ควรเกิน 8,000 บาท ถูกสุด
4,000 บาท ไปกลับรวมกระเป๋า
- ที่พักตกคืนละ 1,000 บาทต่อคนแบบดีดี
รวมอาหารเช้า
- รถติดสุดๆบาหลี เผื่อเวลาเยอะๆ ไปเช้าๆ ออกไว
จะได้ไม่เบื่อ
- ทุกที่ สูงวัยสามารถไปได้
เข้าร่วมกิจกรรมได้เกือบหมด
- ซิมส์ DTAC-> TRUE -> Sim2fly
ตามสัญญาณ ติดๆดับทุกอัน
- อาหารราคาไม่แพง สั่งได้หมด
ร้านหรูๆเหมือนบ้านเราคือ 10%+7% นะจ้ะ
- ทัวร์ Nusa ควรจอง
KLOOK ก็ได้ หรือ Local ก็ได้
- heaven gate ควรมาถึงไม่เกิน
7 โมง ไปรอวัดเปิดซะจะได้ไม่ต้องรอ 5 ชม. แบบนี้
- ที่นี่ขับรถเลนส์เดียวกับเรา
ขับเองได้เช่ารถได้ แค่รถติด และทางแคบ ให้ระวังเยอะๆ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
1.ตั๋วเครื่องบินแล้วแต่คน ได้มา 4,900 บาทรวมกระเป๋า 20 โลไปกลับ
2.ซิมส์ 230 บาท จาก DTAC Shopee
3.ที่พัก 4 คืน มีอาหารเช้าทุกวัน
4.เดินทาง น้ำมัน คนขับ
5.ค่าเข้าสถานที่ Bali Swing และค่าเข้าทุกที่
6.ค่าทัวร์ เกาะ Private รวมค่าเรือไปกลับ อาหารกลางวันและน้ำดื่ม
รวม 7365 บาท
7.เงินกองกลางเอาไว้ใช้ด้วยกัน 200,000 Rp = 460 บาท
8.ประกันเดินทางจ่ายรายปี
9.ค่าอาหารส่วนตัว 682,000 Rp = 1568 บาท
-Supermarket 300,000 Rp
-น้ำ 20,000 Rp
-ข้าวเย็น 60,000 Rp
-น้ำแตงโม 15,000 Rp
-ค่าน้ำ 10,000 Rp
-Dinner 167,000 Rp
-น้ำอัดลม 25,000 Rp
-ข้าวกลางวัน 85,000 Rp
รวมใช้ไปทั้งหมดทั้งทริป =14523 บาท
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
1.ตั๋วเครื่องบินแล้วแต่คน ได้มา 4,900 บาทรวมกระเป๋า 20 โลไปกลับ
2.ซิมส์ 230 บาท จาก DTAC Shopee
3.ที่พัก 4 คืน มีอาหารเช้าทุกวัน
4.เดินทาง น้ำมัน คนขับ
5.ค่าเข้าสถานที่ Bali Swing และค่าเข้าทุกที่
6.ค่าทัวร์ เกาะ Private รวมค่าเรือไปกลับ อาหารกลางวันและน้ำดื่ม
รวม 7365 บาท
7.เงินกองกลางเอาไว้ใช้ด้วยกัน 200,000 Rp = 460 บาท
8.ประกันเดินทางจ่ายรายปี
9.ค่าอาหารส่วนตัว 682,000 Rp = 1568 บาท
-Supermarket 300,000 Rp
-น้ำ 20,000 Rp
-ข้าวเย็น 60,000 Rp
-น้ำแตงโม 15,000 Rp
-ค่าน้ำ 10,000 Rp
-Dinner 167,000 Rp
-น้ำอัดลม 25,000 Rp
-ข้าวกลางวัน 85,000 Rp
รวมใช้ไปทั้งหมดทั้งทริป =14523 บาท